- Home I หน้าแรก l
- ข่าว และ บทความ
- ข่าว l News
- บทความ l Articles
- บทวิเคราะห์
- บทวิเคราะห์สถานการณ์ โลก
- บทความศาสนา
- ครรลองอิสลาม
- ศาสนบัญญัติ
- ศาสดาและวงศ์วานผู้ทรงเกียรติ
- เส้นทางสู่อิสลาม
- กุรอานและฮะดีษ
- หนังสือ-วารสาร
- นะญุลบาลาเฆาะฮ์
แผนแรก คือข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่สิ้นสุดลงแล้ว และขณะนี้บรรดาประเทศสำคัญในอ่าว (เปอร์เซีย) กำลังเรียกร้องสหรัฐฯ เพิ่มการกดดันต่ออิหร่าน
ตามรายงานของญอมนิวส์ บลูมเบิร์กได้รายงานเกี่ยวกับความพยายามของบางประเทศในอ่าวเปอร์เซียร่วมกับระบอบไซออนิสต์ในการสร้างพันธมิตรเพื่อต่อต้านอิหร่าน
ตามรายงานนี้ ในช่วงเริ่มต้นระบอบไซออนิสต์ ซาอุดิอารเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ใช้ความพยายามทั้งหมดของตนเพื่อทำลายข้อตกลงเกี่ยวกับนิวเคลียร์ และตอนนี้ขณะที่สหรัฐฯ ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้แล้ว ประเทศเหล่านี้กำลังพยายามเพื่อที่จะดำเนินแผนขั้นที่สองของตนกับอิหร่าน
บลูมเบิร์กได้เขียนว่า : แผนแรก คือข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่สิ้นสุดลงแล้ว และขณะนี้บรรดาประเทศสำคัญในอ่าว (เปอร์เซีย) กำลังเรียกร้องสหรัฐฯ เพิ่มการกดดันต่ออิหร่าน
รายงานนี้ได้กล่าวต่อไปว่า : การถอนตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ จากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านไม่ได้รับการยอมรับมากนักในเวทีระหว่างประเทศ แต่สามพันธมิตรของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง (เอเซียตะวันตก) ได้แก่ อิสราเอล, ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ต้อนรับการดำเนินการนี้อย่างเต็มที่
บนพื้นฐานของรายงานนี้ อิสราเอลได้กล่าวก่อนหน้านี้มานานแล้วว่า ข้อตกลงนี้ไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านกลายเป็นอำนาจทางด้านนิวเคลียร์ได้และบรรดาประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียเชื่อว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์จะช่วยส่งเสริมให้อิหร่านดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในระดับภูมิภาคต่อไปได้
บลูมเบิร์กชี้ถึงความปรารถนาของซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่จะสร้างพันธมิตรต่อต้านอิหร่าน พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่า : เมื่อมีการพูดถึงแผนขั้นที่สองสำหรับการเผชิญหน้ากับอิหร่าน หมายถึงการสร้างสัมพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐฯ เพื่อจัดการกับอิหร่าน บรรดาประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียมีแนวคิดมากมายที่จะนำเสนอ
ก่อนหน้านี้สื่อต่างๆ ในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติจำนวนมากก็ได้รายงานถึงความกลัวของซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลเกี่ยวกับอำนาจและอิทธิพลของอิหร่านที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวันในเอเชียตะวันตก และสื่อเหล่านี้ได้เขียนว่า ริยาดพร้อมด้วยรัฐบาลไซออนิสต์กำลังพยายามเพื่อต่อต้านการขยายอำนาจอำนาจในระดับภูมิภาคของอิหร่าน
ตามข้อเขียนของบลูมเบิร์ก ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้ของโอบามาโดยที่การบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอิหร่านสามารถที่จะส่งผลดีต่อนโยบายในระดับภูมิภาคของประเทศนี้ได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ริยาดและอาบูดาบีจึงได้แสดงการต้อนรับถ้อยแถลงต่างๆ ของทรัมป์ในการต่อต้านอิหร่านและการหวนกลับมาดำเนินมาตรการคว่ำบาตรใหม่ แม้ว่าการกลายเป็นอำนาจในระดับภูมิภาคของอิหร่านจะบรรลุความเป็นจริงในระดับที่มากมายตั้งแต่ก่อนการบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์แล้วก็ตาม และมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และพันธมิตรก็ไม่สามารถที่จะหยุดการเคลื่อนไหวต่างๆ ของอิหร่านในบรรดาประเทศ อย่างเช่น อิรัก ซีเรียและเลบานอน
ในขณะเดียวกันเว็บไซต์ข่าวอัลยาซีราได้เขียนว่า รัฐบาลทรัมพ์กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศในการต่อต้านอิหร่าน
ตามรายงานนี้ รัฐบาลของทรัมพ์พยายามที่จะแนะนำว่าอิหร่านเป็น "ภัยคุกคามต่อโลก" และด้วยวิธีการเช่นนี้จะเปิดทางให้บรรดาพันธมิตรทำการต่อต้านอิทธิพลในระดับภูมิภาคของเตหะรานได้
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ที่สหภาพยุโรปกำลังพูดถึงความพยายามที่จะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ แต่ยังไม่เห็นมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ จากประเทศเหล่านี้เลยนั้น อนาคตที่กำลังจะมาถึงสำหรับการกำหนดสถานะของข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมทั้งสถานการณ์ของภูมิภาคเอเชียตะวันตก ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญยิ่ง