- Home I หน้าแรก l
- ข่าว และ บทความ
- ข่าว l News
- บทความ l Articles
- บทวิเคราะห์
- บทวิเคราะห์สถานการณ์ โลก
- บทความศาสนา
- ครรลองอิสลาม
- ศาสนบัญญัติ
- ศาสดาและวงศ์วานผู้ทรงเกียรติ
- เส้นทางสู่อิสลาม
- กุรอานและฮะดีษ
- หนังสือ-วารสาร
- นะญุลบาลาเฆาะฮ์
นักวิเคราะห์ปัญหาระหว่างประเทศได้เขียนว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีเหตุการณ์ที่สำคัญ 4 ประการเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ซึ่งสามารถจะกำหนดดุลอำนาจในอนาคตของภูมิภาคได้
สำนักข่าวตัสนีมรายงานโดยอ้างจากหนังสือพิมพ์ "อัล-บินาอ์" ของเลบานอนว่า "โรซันน่า ร็อมมาล" (Rosanna Rammal) นักวิเคราะห์ปัญหาภูมิภาคได้เขียนในบทความหนึ่งว่า : ระบอบไซออนิสต์จะติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคอย่างผิดปกติในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
บรรดามหาอำนาจจะแสดงปฏิสัมพันธ์ต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของเดือนนี้ในฐานะที่เป็นพื้นฐานสำหรับการกำหนดดุลอำนาจใหม่ของภูมิภาคและเชื่อว่าขั้นตอนหลังจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่เป็นเหมือนกับก่อนหน้านี้ พวกเขากล่าวว่าจำเป็นต้องเข้าสู่ศักราชใหม่ของชีวิตของภูมิภาคซึ่งดุลอำนาจใหม่จะเป็นตัวกำหนดบันทัศฐานต่างๆ ของมัน
ตามรายงานนี้ การพูดคุยเกี่ยวกับการประนีประนอมในวิกฤติซีเรียและวิกฤติเยเมนได้ยินมากขึ้นกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นในการบรรลุสู่กระบวนการดังกล่าวคือสถานการณ์ของกระแสต่างๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ ในขณะนี้สหรัฐอเมริกาและระบอบไซออนิสต์พร้อมกับซาอุดีอาระเบียกำลังรอคอยสี่เหตุการณ์ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในภูมิภาคเพื่อกำหนดแนวทางต่างๆ ของตนเองบนพื้นฐานของมัน
ใกล้ถึงเวลาของการลงนามใหม่หรือการประกาศถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ได้ลงนามกันไว้ระหว่างกลุ่มประเทศตะวันตกกับอิหร่าน ซึ่งมีกำหนดว่าจะเป็นที่ชัดเจนในวันที่ 12 พฤษภาคม แรงกดดันต่างๆ มากมายที่สหรัฐอเมริกาได้รับจากพันธมิตรของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิสราเอลและซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มมากขึ้นกว่าทุกช่วงเวลา ส่วนหนึ่งของแรงกดดันเหล่านี้คือข้อตกลงและเงินต่างๆ ทั้งหมดที่ซาอุดิอาระเบียได้มอบให้วอชิงตันเพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นพันธมิตรคนแรกของสหรัฐฯ ในโลกซุนนี
ดูเหมือนว่าในสถานการณ์ขณะนี้วอชิงตันไม่พร้อมที่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ความลังเลที่มีอยู่ในความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างทำเนียบขาวและเพนตากอนในการเลือกตัวเลือกที่มีความสำคัญยิ่งนี้เป็นประเด็นที่น่าจับตาดู อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เป็นเวลายืดยาวที่เกิดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีฮะซัน รูฮานีแห่งอิหร่านและประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งฝรั่งเศสนั้น ข้อความต่างโดยตรงที่ถูกหยิบยกที่ได้แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งเพิ่งเดินกลับจากทำเนียบขาวจะยังคงยึดมั่นในข้อตกลงนิวเคลียร์ต่ออิหร่าน
การย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาไปยังเยรูซาเล็ม (อัล กุดส์) : เหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การลุกฮือ ฮินติฟาเฎาะฮ์) ของประชาชนชาวปาเลสไตน์และเป็นการลุกฮือ (อินติฟาเฎาะฮ์) ด้วยการติดอาวุธต่อต้านระบอบไซออนิสต์ นอกจากนี้เหตุการณ์ยังสามารถที่จะเสริมสร้างสถานะของอิหร่านให้เข้มแข็งขึ้นในกลุ่มต่านทาน (มุกอวะมะฮ์) ทั้งหลายของชาวปาเลสไตน์ อย่างเช่น กลุ่มฮามาสและกลุ่มญิฮาดอิสลามี
การเลือกตั้งรัฐสภาในอิรัก : การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากการถอนรากถอนโคนไอซิสโดยความพยายามต่างๆ ของกองทัพอิรักและกองกำลังประชาชน ผลต่างๆ ของการเลือกตั้งนี้เป็นไปในลักษณะที่ทำให้ซาอุดีอาระเบียอยู่ในสภาพของการเฝ้าระวังในระดับอ่าวเปอร์เซียและสหรัฐฯ ในระดับภูมิภาค พวกเขากำลังติดตามผลลัพธ์ของสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วยความละเอียดอย่างสูง เนื่องจากผลลัพธ์เหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างแนบแน่นกับสถานะการดำรงอยู่ของพวกเขาในภูมิภาค
การเลือกตั้งรัฐสภาในเลบานอน : การเลือกตั้งนี้จะจัดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าที่จะสร้างรูปโฉมใหม่ของเสียงข้างมากในรัฐสภาในประเทศเลบานอน 9 ปีหลังจากที่เสียงข้างมากของรัฐสภาในเลบานอน อันเป็นผลมาจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงหลังจากการลอบสังหาร “รอฟีก อัลฮะรีรี” และการลดลงของการปรากฏตัวของซีเรียในเลบานอนได้ถูกมอบให้กับบรรดาพันธมิตรของวอชิงตันและคนกลุ่มนี้ได้จัดเตรียมโอกาสความเป็นไปได้ที่จะปิดรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของบรรดาพันธมิตรของสหรัฐฯ ในอ่าว (บรรดารัฐบาลอาหรับรอบอ่าวเปอร์เซีย)
วันนี้โอกาสนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง วันนี้ความเหนือกว่าของฮิซบุลลอฮ์ซึ่งปรากฏอย่างชัดเจนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งนั้น ได้กลายเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความกังวลของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย และสืบเนื่องจากความกังวลนี้ ริยาดได้ดำเนินการจับกุมตัวซะอัด อัลฮะรีรี นายกรัฐมนตรีของเลบานอนไว้เป็นเวลาหลายวัน
เหตุการณ์ทั้งสี่นี้จะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของภูมิภาคอาหรับและจะเป็นตัวกำหนดดุลอำนาจในอนาคต จากผู้ชนะและผู้แพ้ของสองค่ายในภูมิภาคนี้